|
วัดม้าขาว 白马寺
วัดม้าขาว หรือ วัดไป๋หม่าซื่อ 白马寺 เป็นวัดเก่าแก่อีกแห่งหนึ่ง ที่มีภาระด้านพุทธศาสนาในประเทศจีนมายาวนาน กว่าที่พุทธศาสนาจะตั้งรกรากได้ต้องใช้เวลานาน เพราะจีนมีประเพณีและวัฒนธรรมความเชื่อปรัชญา ที่มีมาแต่เดิมอย่างแน่นหนาแข็งแรง ยากที่จะเจาะฐานนี้เข้าไปได้ อีกประการหนึ่งพวกขุนนางผู้ใหญ่ในราชสำนักผู้มีอำนาจ ต่างนับถือลัทธิขงจื่อเล่าจื่ออย่างมั่นคง ในปีพ.ศ. ๖๐๗ วันหนึ่งฮ่องเต้ฮั่นหมิงตี้ ทรงพระสุบินว่า ทรงเห็นเทพเจ้าองค์หนึ่งสูงประมาณ ๑๖ เชียะ หรือ ๓.๗ เมตรหรือ ๑๒ ฟุต มีพระรัศมีล้อมพระเศียร เมื่อ ถึงเวลาขุนนางผู้ใหญ่เข้าเฝ้า พระองค์ทรงเล่าให้ฟัง จงหูขุนนางท่านหนึ่งกราบทูลว่า เป็นศุภนิมิตที่จะให้พระองค์ไปสืบพระพุทธศาสนา ที่ประเทศอินเดียมาประดิษฐานในประเทศจีน พระองค์จึงทรงส่งราชทูต ๑๘ คนมี ไช่อิน ฉินจิงและหวางจิน เป็นหัวหน้าไปอินเดีย เมื่อพ.ศ. ๖๐๘ จนถึงพ.ศ. ๖๑๑ ราชทูตจึงกลับมา พร้อมด้วยพระไตรปิฎกพระคัมภีร์ พระพุทธรูป พระบรมสารีริกธาตุ และพระสงฆ์อินเดีย ๒ รูป ฮ่องเต้ จึงรับสั่งให้จัดม้าขาวออกไปรับพระไตรปิฎก พระคัมภีร์ พระสารีริกธาตุ พระพุทธรูป บรรทุกหลังม้าขาว เข้าเมืองลั่วหยาง เมืองหลวง แล้วโปรดฯให้สร้างวัดขึ้นชานเมืองลั่วหยางเสร็จแล้วนำสิ่งของทั้งหมดไปไว้ ที่วัด พร้อมพระราชทานนามวัดว่า ไป๋หม่าซื่อ หรือ วัดม้าขาว พร้อมทั้งภิกษุชาวอินเดีย ๒ รูป คือ พระเจียโม่เต็งกับพระซีฮวนลั่นไปจำวัดที่นั่น พร้อมทั้งแปลพระไตรปิฎก ๔๒ บท และพระคัมภีร์ วัดม้าขาวจึงเป็นศูนย์กลางพระพุทธศาสนามาตั้งแต่นั้น จนบัดนี้เป็นเวลา ๑๙๐๐ ปีเศษ จึงเป็นวัดที่มีสถาปัตยกรรม ประติมากรรม ศิลปกรรมหลากหลายยุคหลายสมัยที่น่าสนใจยิ่ง ปัจจุบัน มีอาคารศาลาต่างๆ เพื่อประดิษฐานพระพุทธรูปฝ่ายมหายานมากมาย สร้างสมัยแตกต่างกัน ตั้งแต่สมัยราชวงศ์ฮั่น ราชวงศ์หยวน มีห้องโถงต่างๆ เช่น ห้องเทพเจ้าแห่งสวรรค์ ห้องประดิษฐานพระพุทธเจ้าผู้ยิ่งใหญ่ ห้องพระไวโรจนะ ห้องแนะทางสวรรค์ ในแต่ละห้องมีพระพุทธรูปและพระโพธิสัตว์เป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะพระโพธิสัตว์ทั้งห้าพระองค์ มีหอพระไตรปิฎก ภาย นอกวัดมีพระเจดีย์อิฐ เรียกว่า จวิ๋นหยุน เป็นพระเจดีย์ที่เก่าแก่ที่สุดในจีน ยังมีศิลาจารึกตั้งแต่สมัยราชวงศ์ถัง รวมแล้วกว่า ๔๐ หลัก ด้านหน้าวัดทั้งสองข้าง มีรูปม้าแกะสลัก ๒ ตัวขนาดเท่าตัวจริง แกะสลักจากหินทรายสมัยราชวงศ์ซ่ง
: สมบูรณ์ แก่นตะเคียน ๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๒
Title : Bai Ma Si
: Somboon Kantakian
Credits : Somboon Kantakian 2004
ภาพประกอบ
********
|
|
|