Bookmark and Share Add to Favorites  
สมาชิกเข้าสู่ระบบ
User Name:
Password:
จำการล็อกอินของฉันไว้
ลืมรหัสผ่าน | สมัครสมาชิก
ลืมรหัสผ่าน
ใสอีเมล์ที่ลงทะเบียนไว้กับเรา
จีนศึกษา
  CHINESE TEXT PROJECT
  STANDARD CHINESE
  เส้นสายลายอักษร
  ลัทธิเต๋า
  รวมเรื่องจีนศึกษา-China Knowledge
  วัฒนธรรมศึกษาจากเว็บต่างๆ
  วัฒนธรรมศึกษาจากภาพ
  พระบรมฉายาลักษณ์ของฮ่องเต้
  มังกรจีนสมัยโบราณ
  มังกรจีนศึกษา
  เลือกเพศให้ลูก
  จีนโบราณจาก บริทิชมิวเซียม
  การเดินทางไกลของเหมาเจ๋อตุง
  จีนในปัจจุบัน
แซ่สกุล
  แซ่ตระกูลที่ใช้กันมาก
  ข้อมูลตระกูลแซ่ต่างๆ
  ประวัติบางแซ่สกุล
  200 แซ่สกุลที่ใช้มาก
  ตระกูลแซ่หลิน
มหาวิทยาลัยชั้นนำ
  BEIJING UNIVERCITY
  Shanghai Jiao Tong University
  Tsinghua University
  Xi'an Jiaotong University
  The Chinese University of Hong Kong
  The University of Hong Kong
  The Hong Kong University of Science and Technology
  Southeast University
  East China Normal University
  Tongji University
  Huazhong University of Science and Technology
  The Hong Kong Polytechnic University
  Tianjin University
  City University of Hong Kong
  Harbin Institute of Technology
  Wuhan University
  China Agricultural University
  Renmin University of China
  Xiamen University
  Fudan University
  Hong Kong Baptist University
  Shandong University
  Nanjing University
  University of Science and Technology of China
  Zhe Jiang University
พิพิธภัณฑ์และหอสมุด
  NATIONAL LIBRARY OF CHINA
  CHINA'S MUSEUMS
  GREAT WALL OF CHINA
  SACRED MOUNTAINS OF CHINA
หนังสือพิมพ์
  ซินหัวไทย
  People's Daily
  Xinhua
  China Daily
  China News
  China .com.cn
  China Youth Daily
เจ - มังสวิรัติ - VEGETARIAN
  เจ-อิ่มบุญ
  พลังบุญ
  เมนูอาหารเจ
  เจทิพย์
  อาหารมังสวิรัติ
  International Vegetarian Union (IVU)
  The Veggie Hub
  Vegetarianism
  A Guide to Vetetarian
  simple-veganista.com/all-recipes
เว็บเครือสมบูรณ์
  สมบูรณ์แก่นโน้ต
  ตระกูลแซ่หลิน
  ภูเก็ตสารสนเทศ
  สมบูรณ์แก่นโน้ต

พระจี้กงโจวซือ 道济禅师

 

 

 

 

 

         พระจี้กง 濟公 หรือ พระเต้าจี้ฉานซือ 道济禅师, 道濟禪師 หรือพระจี้กงหัวฝัว 济公活佛, 濟公活佛 หรือ หัวฝัวซือจวิน เป็นพระสงฆ์ฝ่ายพุทธศาสนามหายานที่มีชื่อเสียงองค์หนึ่งสมัยราชวงศ์ซ่งใต้

       พระจี้กง เดิมเป็นคนตระกูลแซ่หลี่ ชื่อ เซ่ยเอวี๋ยน บางครั้งเรียก หูอิน หรือฝางเอวี๋ยน  หลี่เซ่ยเอวี๋ยน 李修元 ถือกำเนิดจากครอบครัวขุนนางนายทหารคือ หลี่เหมาชุน เขาเกิดในช่วงที่บิดามารดามีอายุมากแล้วและคิดว่าคงจะไม่มีบุตรอีก ถือกำเนิดในปีพ.ศ.๑๖๗๓ ตรงกับรัชสมัยฮ่องเต้ซ่งเกาจง(จ้าวโก้ว) ผู้เป็นปฐมราชวงศ์ซ่งใต้ในปีจิ้งเอี๋ยนที่๔

       หลังจากที่บิดามารดาถึงแก่กรรม หลี่เซ่ยเอวี๋ยนจึงเดินทางไปเมืองหางโจว ด้วยความที่เป็นคนนับถือพระพุทธศาสนามหายาน จึงเข้าไปสำนักอยู่ที่วัดหลิงอิน นิกายหลินจี้จง  บริเวณเทือกเขาอู่หลินอยุ่ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของเมืองหางโจว มณฑลเจ้อเจียง ซึ่งเป็นวัดที่มีชื่อเสียงโด่งดังวัดหนึ่งของจีนวัดนี้ สร้างมาตั้งแต่ พ.ศ.๘๗๑ สมัยราชวงศ์จิ้นตะวันออกโดยพระสงฆ์ชาวอินเดีย ซื่อฮุยลี หลี่เซ่ยเอวี๋ยนจึงได้อุปสมบทเป็น พระภิกษุเต้าจี้ ท่านได้ศึกษาธรรมอย่างเคร่งครัดลึกซึ้ง ตลอดเจนการนั่งสมาธิวิปัสสนาธุระ จนสำเร็จไปชั้นหนึ่ง แต่ด้วยความที่ท่านได้ยึดถือเอาธรรมปฏิบัติแบบมหายาน ตามคำสอนขอพระพุทธองศ์ในช่วงปลายพระชนม์มาปฏิบัติ ทำให้ดูเหมือนว่าไม่ปฏิบัติตามพระธรรมวินัยของคณะสงฆ์ พระเต้าจี้ จึงถูกนิมนต์ให้ออกจากวัดหลิงอิน

       ภิกษุเต้าจี้จึงธุดงค์ออกจากวัด ไปตามที่ต่าง ๆ ท่านได้สั่งสอนชาวบ้าน แต่สังฆปฏิบัติของท่านเพี้ยนไปจากพระสงฆ์รูปอื่นคือ ท่านฉันเนื้อซึ่งภิกษุทั้งหลายฉันเจ ท่านดื่มสุราโดยพกใส่ลูกน้ำเต้าสะพายไปไหน ๆ พร้อมกับถือพัดใบลานเก่า ๆ อันหนึ่งด้วยแต่ก็ยังสวมชุดพระสงฆ์สวมหมวกพระสงฆ์สวมรองเท้าผ้า ท่านจึงต้องกลายเป็นพระภิกษุภิกขาจารเร่ร่อนไปตามถนนตามตำบลต่าง ๆ ท่านได้สั่งสอนธรรมแก่ชาวบ้านแต่แฝงไว้ด้วย พลังอำนาจศักดิ์สิทธิ์ในตัวท่าน ชาวบ้านต่างเชื่อว่าท่านเป็นพระโพธิสัตว์อวตาร ลงมาเกิดหรือเป็นพระสงฆ์ที่เคยสำเร็จญาณชั้นสูงมาแล้วจากชาติก่อน แต่ยังไม่ถึงขั้นสำเร็จขั้นอรหันต์ลงมาเกิด

       กล่าวกันว่า ท่านเป็นพระมหากัสสปผู้ฝึกมังกรให้เชื่องที่เรียกว่า เสียงหลงหลัวฮั่น จุติลงมาเกิดซึ่งเป็นหนึ่งองค์ใน ๑๘ อรหันต์

       ต่อมาพระเต้าจี้ ได้เดินทางไปพำนักอยู่ที่วัดฮุยรื่อหยงหมิงซึ่งก่อสร้างเมื่อ พ.ศ.๑๔๙๗ สมัยห้าราชวงศ์ ตรงกับรัชสมัยฮ่องเต้ไท่จวี่(โกวเวย) ในปีก่องซุ่นที่๔ แห่งราชวงศ์โฮ่วโจว เพื่อเป็นอนุสรณ์แด่พระหยงหมิง วัดตั้งอยู่บนยอดเนินหนานหมิงฮุยรื่อ ถนนหนานปิงในปัจจุบัน

       ในช่วงที่พระเต้าจี้พำนักอยู่ที่วัดนี้ ทางวัดกำลังจะก่อสร้างอาคารธรรมศาลาขนาดใหญ่ขึ้น แต่ติดขัดด้วยไม้ที่จะชักลาภมาที่วัดผ่านทะเลสาบซีหู เมื่อท่อนซุงขนาดใหญ่มาลอยแพอยู่ฝั่งทะเลสาบ จำต้องชักลากไปที่วัดซึ่งไม่ไกลนัก แต่ติดขัดด้วยการชักลาก พระเต้าจี้จึงบอกบรรดาสงฆ์ว่า การชักลากท่อนซุงมาที่วัดเอาไว้เป็นธุระของท่านเอง ท่านจะจัดการให้ หมู่พระสงฆ์ก็ไม่ว่าอะไรเพราะเป็นไปไม่ได้ที่ท่านจะทำ พอตกกลางคืนฝนฟ้าตกน้ำท่วมเอ่อบริเวณฝั่งทะเลสาปเสียงพายุฟ้าคะนองเกิดขึ้นในเช้าวันรุ่งขึ้น หมู่พระสงฆ์ต่างประหลาดใจในความอัศจรรย์ที่ได้เห็นท่อนซุงขนาดใหญ่ลอยขึ้นจากในบ่อน้ำหน้าวัด ต่างพากันดีใจ ช่วยกันชักลากออกจากบ่อ ทำให้บรรดาหมู่พระสงฆ์และญาติโยมต่างเคารพพระเต้าจี้มากขึ้น เล่าขานกันไปเป็นทอด ทำให้พระเต้าจี้มีชื่อเสียงในอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์ แต่ท่านก็ยังปฏิบัติตนเช่นเดิม

       จนถึงวันที่ ๑๗ กรกฎาคม พ.ศ.๑๗๕๐ หรือวันที่๑๔ ค่ำ เดือน๕ พระเต้าจี้มรณภาพ ตรงกับรัชสมัยฮ่องเต้ซ่งหนิงจง(จ๋าวโก๋ว) ในปีไคสี่ที่๓ แห่งราชวงศ์ซ่งใต้ และ เพื่อเป็นอนุสรณ์แก่วัด จึงได้เปลี่ยนชื่อวัดเป็นวัดจี้กง หรือวัดจิ้งฉือในสมัยราชวงศ์ซ่งใต้

 

       ปัจจุบันบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ ได้ทำศาลาครอบและแกะสลักรูปพระจี้กงด้วยหินหยกขาวประดิษฐานอยู่ตรงปากบ่อ

       คำสอนบางข้อของพระจี้กง

๑. ชีวิตย่อมเป็นไปตามวิถีแห่งกรรมที่ลิขิต

๒. วันนี้ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นในวันพรุ่งนี้

๓. ผ้าขาดปะชุนแล้วกันหนาวได้

๔. ตายแล้วเอาอะไรไปไม่ได้สักอย่าง

๕. จองเวรจองกรรมเมื่อไรจะจบสิ้น

๖. ชีวิตเหมือนเกมหมากรุก

๗. ฮวงจุ้ยที่ดีอยู่ที่จิตมิใช่อยู่ที่ภูเขา

๘.ชีวิตลำเค็ญเพราะชาติก่อนไม่บำเพ็ญ

๙. พึ่งตนเองดีกว่าไปพึ่งผู้อื่น

๑๐. ทุกสิ่งจบสิ้นลงด้วยความตาย

       พระเต้าจี้ได้รับการศึกษาชีวิตและผลงานของท่าน ฝ่ายลัทธิเต๋าจึงยกย่องให้ท่านอยู่ในสวรรค์เป็นเทพเจ้าหรือเซียนองค์หนึ่ง และฝ่ายพระสงฆ์นิกายเซ็นต่างยกย่องท่านให้เป็นกง-อัน หรือกง ส่วนประชาชนทั่วไปในปัจจุบันได้ให้ความเคารพนับถือในคำสอนของท่าน บางกลุ่มได้ขอให้ท่านอำนวยโชคลาภในการเสี่ยงทาย เทพเจ้าแห่งการประพันธ์ เทพเจ้าแห่งจิตรกรรม เป็นต้น

 

 

 

               :    สมบูรณ์ แก่นตะเคียน  ๘ พฤษภาคม ๒๕๕๑

 

 

Title        :    Ji Gong

 

              :    Somboon Kantakian

Credits    :    Somboon Kantakian, 2007.

 

Note       :    พระจี้กงนั่งอยู่ปากบ่อลากซุง วัดจิ้งฉือ ที่เมืองหางโจว

 

พิมพ์        :    คณาธิศ พหุพันธ์

 

 

ภาพวัดจิ้งฉือ เมืองหางโจว 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

*****

บทความอื่นๆ ในหมวดเดียวกัน