|
จู้หยอง 祝 融
จู้หยอง 祝 融 ทรงเป็นเทพเจ้าแห่งไฟ องค์ผู้สถิตอยู่ ณ พืดเขาคุนลุ้น แดนตะวันตก ผู้ทรงสั่งสอนมนุษย์ให้รู้จักการใช้ไฟ บางตำนานเรียกขานเขาว่า จู้เหอ 祝龢 หรือ จู้ซ่ง 祝 誦 ตามตำนานกล่าวว่า จู้หยอง เป็นบุตรของหัวหน้าเผ่าจู้หยอง ซึ่งรับราชการอยู่กับพระเจ้าหวงตี้ ผู้ทรงมีชีวิตอยู่ประมาณก่อน ค.ศ. ๒๖๙๙ ๒๕๘๘ สมัยเมื่อยังเยาว์ เรียกเขาว่า หลี่ ผู้มีใบหน้าสีแดง ร่างกายแข็งแรง สูงและสง่างาม แต่อารมณ์ฉุนเฉียวโกรธง่าย ในสมัยก่อนจากนั้น พระเจ้าสุ้ยเหยิน หนึ่งในสมัยซานหวงอู่ตี้ ได้ทรงพบวิธีใช้ไฟแล้ว ด้วยการนำเอาไม้มาสีกันให้ร้อน แล้วเกิดควันและไฟในที่สุด แต่ไม่ทรงทราบวิธีที่จะรักษาไฟให้อยู่ได้นาน และเอาไฟไปทำอะไรได้บ้าง แต่หลี่มีความสามารถพิเศษเกี่ยวกับเรื่องไฟ เขารู้จักการจัดการเกี่ยวกับไฟได้ดี เมื่อเขาจุดไฟด้วยไม้แล้ว เขาสามารถที่จะเก็บไฟเอาไว้ใช้ได้นาน ยังมีความคิดด้วยการเอาไฟไปย่างเนื้อ หุงต้มพืช เมล็ดพืช เผาหัวพืชกิน เอาไฟมาทำให้เกิดแสงขึ้นใช้ในเวลาค่ำคืน หลี่รู้จักเอาดุ้นไฟไล่สัตว์ร้าย ที่มารบกวน รวมทั้งเอาไฟไล่พวกแมลง พระเจ้าหวงตี้จึงทรงตั้งเขาให้เป็นผู้รับผิดชอบเรื่องไฟ และยังเป็นหัวหน้ารับผิดชอบเรื่องที่ดินและประชากร รับผิดชอบพื้นที่ทะเลใต้ของอาณาจักร ดังนั้นคนรุ่นหลังจึงตั้งนามต่างๆว่า หลี่ หรือ จู้เหยิน เป็นบิดาแห่งไฟ เทพเจ้าแห่งทะเลใต้ เทพเจ้าแห่งฤดูร้อน เพชฌฆาตแห่งสวรรค์ เป็นต้น นอกจากนี้เขายังประดิษฐ์เครื่องดนตรีชนิดหนึ่งรูปแบบพิณน้ำเต้า เรียกว่า ฉิน 琴 โดยเลียนเสียงนกหลายระดับเสียง เมื่อเขาเล่นดนตรีนี้แล้ว ทำให้พวกนกออกมาเริงร่าในสนามหญ้า ฉินของเขาเรียกว่า หวงไหล 凰來 ซึ่งหมายถึง หงส์ตัวเมียออกมาเริงร่า หลวนไหล 鸞來 หมายถึง นกวายุภักษ์ออกมาเริงร่า ส่วน เฟิ่งไหล 鳳來 หมายถึง หงส์ตัวผู้ออกมาเริงร่า หลี่ได้รับการยกย่องให้เป็นเทพเจ้าแห่งไฟ ทรงเสือเป็นพาหนะ ทรงช่วยเหลือดินแดนสวรรค์และชาวโลกมนุษย์ ทำให้มีชื่อเสียงเป็นที่อิจฉาแก่เทพเจ้าบางองค์ จากตำนานว่า ครั้งหนึ่ง จู้หยองได้เกิดการสู้รบกับ กุ้งกุ๋ง 共工 ผู้เป็นเทพเจ้าแห่งน้ำ ผู้ปรารถนาที่จะเป็น ผู้เป็นใหญ่แห่งสวรรค์ ฝ่ายจู้หยองยกกองทัพมายัน เกิดการสู้รบกันนาน ในที่สุดกุ้งกุ๋งแพ้ ด้วยความละอายใจ จึงเอาศีรษะชนภูเขาปู้โจวซาน จนพังทะลายลง ตำนานเล่าว่า ภูเขาแห่งนี้เป็นเสาแกนค้ำฟ้า ทำให้เสาค้ำฟ้าเอียง ทำให้สวรรค์เอียงไปทางทิศเหนือ ทำให้พื้นโลกโด่งขึ้นทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ และรวมทั้งทำให้โลกเอียงไปด้วย ทำให้เกิดน้ำหลากท่วมพื้นดิน ทำความเดือดร้อนให้แก่ชาวบ้านทั่วไป ร้อนถึงพระนางหนิ่ววา 女媧 ต้องเสด็จไปตัดขาทั้งสี่ของเทพเต่าโอ๋ว ที่ทะเลจีนใต้เอามาพยุงเสาค้ำฟ้า บางตำนานว่าอยู่ที่ทะเลปั๋วไห่ แต่ทำไม่เรียบร้อย จึงทำให้ดวงอาทิตย์ดวงจันทร์ดวงดาวต่างๆเคลื่อนไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ และน้ำท่วมไหลหลากลงทะเลตะวันออกเฉียงใต้ ที่เทือกเขาเหิงซาน มณฑลหูหนาน มียอดเขาจู้หยองสูงเสียดฟ้า เหนือยอดเขาแห่งนี้ได้มีการสร้างศาลเจ้าจู้หยองขึ้นเมื่อพ.ศ. ๒๒๙๔ สมัยราชวงศ์ชิง ตรงซุ้มประตูหิน มีอักษรสลักว่า จู้หยองเฟิ่ง
: สมบูรณ์ แก่นตะเคียน ๑๖ กรกฎาคม ๒๕๕๓
Title : Zhu Rong
: Somboon Kantakian
|
|
|