|
ฉางเอ๋อ 嫦娥
งานเทศกาลไหว้พระจันทร์ประจำปีตรงกับวันที่ ๑๕ ค่ำ เดือน ๘ เป็นวันแซยิดหรือคล้ายวันถือกำเนิดของเทพเจ้าหลายองค์ ซึ่งหนึ่งในจำนวนนั้น คือ เทพเจ้าฉางเอ๋อ หรือเทพธิดาแห่งดวงจันทร์
ฉางเอ๋อ 嫦娥; หรือ Chang Er หรือ เหิงอี้ หรือ เหิงเอ๋อ หรือ เหิงโอ๋ หรือ ฉางหงอ เป็นภรรยาของโหวอี้ ทั้งคู่มีชีวิตอยู่ในช่วงสมัยพระเจ้าเหยาตี้ แห่ง ซานหวงอู่ตี้ โหวอี้เป็นทหารองครักษ์ของพระเจ้าเหยาตี้ โหวอี้มีอาวุธวิเศษอยู่คือ ดอกศรสีขาวและคันธนูสีแดง
ตี้จุน เป็นเทพเจ้าแห่งทะเลตะวันออก ทรงมีพระมเหสีชื่อ พระนางซีเหอ ทั้งสองพระองค์มีพระโอรส ๑๐ องค์ที่มีลักษณะพิเศษ คือพระวรกายมีแสงร้อนแรงแผ่ออกมาเป็นแสงพระอาทิตย์ ในแต่ละสัปดาห์พระมารดาซีเหอ จะนำพระโอรสทั้งสิบไปสรงน้ำในทะเลสาบที่หุบเขาแสงแห่งตะวันออก เมื่อสรงน้ำเสร็จแต่ละองค์จะประทับบนต้นมอลเบอรรี่วิเศษ ที่เรียกว่า ฝู่สาง ในแต่ละครั้งพระมารดาจะทรงอนุญาตให้โอรสองค์หนึ่งเสด็จด้วยราชรถเทียมด้วยมังกร ๖ ตัว เพื่อเสด็จเหาะเหินจากฟากฟ้าทิศตะวันออก ข้ามขอบฟ้าลัดไปสู่ทิศตะวันตกที่เทือกเขาเหยินจู่ ในช่วงที่พระโอรสชักราชรถผ่านท้องฟ้า แสงจากพระวรกายของพระองค์ก็จะบันเจิดจ้าสว่างไปทั่วและทำให้เกิดความอบอุ่นขึ้นบนโลก
อย่างไรก็ตามพระราชภารกิจประจำวันแบบนี้ทำให้พระโอรสแต่ละพระองค์ทรงเบื่อหน่ายที่ต้องทำซ้ำซากตามวิสัยเด็ก คืออยากเล่นสนุกกันทั้งสิบพระองค์บนท้องฟ้ามากกว่า แล้ววันหนึ่งพระราชโอรสทั้งสิบพระองค์ก็ทรงนัดกันที่จะชักพระราชรถเทียมมังกรออกจากทิศตะวันออกพร้อมกันเพื่อมุ่งไปทิศตะวันตก ถ้าหากกระทำดังกล่าวก็จะทำให้แม่น้ำและมหาสมุทรเหือดแห้ง ผู้คนสัตว์ทั้งหลายตายหมด โลกอาจแตกระเบิดเป็นเสี่ยงๆเป็นแน่ เมื่อพระเจ้าเหยาตี้ทรงทราบดังนั้นจึงทรงปรึกษากับเทพเจ้าตี้จุนพระบิดาของ องค์ชายทั้งสิบรวมทั้งทวยเทพทั้งหลาย เพื่อขจัดปัดเป่าสถานการณ์ ครั้งแรกเทพเจ้าตี้จุนทรงเรียกพระโอรสทั้งสิบมาห้ามปรามมิให้กระทำ แต่พระโอรสไม่ทรงเชื่อฟังกลับกริ้วพระบิดาอีก เทพเจ้าตี้จุนจึงมอบภาระนี้ให้เทพโหวอี้จัดการความดื้อรั้นของโอรสทั้งสิบ ของพระองค์ เทพโหวอี้รับพระบัญชาแล้วลงมาจากสวรรค์ไปคอยอยู่ที่เทือกเขาคุนลุ้น แล้วเทพโหวอี้จึงดึงดอกศรวิเศษสีขาวออกจากซองในกล่องสะพายหลังบรรจงใส่นาบบน คันธนูวิเศษสีแดงเพื่อจะข่มขู่พระโอรสมิให้กระทำ แต่การมิได้เป็นไปเช่นนั้น เมื่อพระโอรสทั้งสิบชักรถผ่านมา เทพโหวอี้กลับเล็งไปยังพระโอรสและยิงธนูออกไปถูกพระโอรสเก้าพระองค์สิ้นพระ ชนม์ จนเหลือองค์ที่สิบ พระเจ้าเหยาตี้จึงทรงขอให้ไว้ชีวิตเพื่อทำให้เกิดแสงสว่างและความอบอุ่นแก่ โลกมนุษย์ เทพโหวอี้จึงปฏิบัติตามรับสั่งของพระเจ้าเหยาตี้ จึงเหลือพระอาทิตย์เพียงองค์เดียวเท่านั้นที่ยังส่องแสงสว่างมายังโลก เมื่อเทพตี้จุนทรงทราบว่าโอรสเก้าองค์ถูกของวิเศษเทพโหวอี้สิ้นพระชนม์ ทรงกริ้วมากและเสียพระทัย จึงทรงขับไล่เทพโหวอี้ให้ออกไปจากสวรรค์ลงมาเป็นคนธรรมดาบนโลกมนุษย์ ทำให้เทพโหวอี้ซึ่งเป็นเทพเจ้าที่ไม่มีวันตายกลายเป็นคนธรรมดาไปเช่นนี้ เขาจึงได้รับคำยกย่องสรรเสริญจากมนุษย์มากที่ยอมเสียสละ ถึงเขาจะเป็นคนธรรมดาแต่ในที่สุดก็ชนะใจหญิงสาวคนหนึ่งชื่อ ฉางเอ๋อ และได้แต่งงานกัน วันหนึ่งโหวอี้เดินทางไปเยี่ยมเพื่อนคนหนึ่งที่บริเวณเทือกเขาคุนลุ้น ณ ที่นั้นเขาได้พบ เทพเจ้าซีหวางมู่ พระราชินีแห่งภูมิภาคตะวันตก ด้วยความที่โหวอี้มีความเคารพในพระองค์เป็นอย่างสูง เขาจึงได้สร้างพระตำหนักด้วยหยกและท่อนไม้ ทำให้พระองค์ทรงพอพระทัยมาก จึงได้พระราชทาน ยาวิเศษ ให้โหวอี้หนึ่งเม็ด เมื่อรับประทานเข้าไปแล้วจะกลับเป็นเทพเจ้าหรือเซียนตามเดิม แต่ตัวโหวอี้อยากได้อีกเม็ดหนึ่งเพื่อให้ภรรยาที่เขารักได้กินเพื่อขึ้นไป สวรรค์อยู่พร้อมกัน พระนางซีหวางมู่จึงรับสั่งให้เขาปฏิบัติตนถือศีลกินเจทำให้ใจบริสุทธิ์เป็น เวลาสิบสองเดือน โหวอี้ก็รับคำแล้วกลับมาบ้านเล่าให้ภรรยาฟังทุกประการ ทั้งสองคนจึงเริ่มปฏิบัติตามคำแนะนำของพระนางซีหวางมู่ เขาจึงเอายาวิเศษเม็ดที่ได้มาครั้งแรกใส่ห่อด้วยผ้าไหมซ่อนบนเพดานในบ้านของ เขา แต่ทว่าเรื่องนี้บังเอิญคนรับใช้ผู้ชายชื่อ เฝิงเหมิง รู้เห็น เขามีจิตคิดคดอยากได้ยาวิเศษเม็ดนั้น วันหนึ่งโหวอี้ออกไปป่าหาอาหารพร้อมด้วยเฝิงเหมิง เมื่อได้โอกาสเฝิงเหมิงจึงลอบฆ่าเจ้านายของตนแล้วรีบกลับมาบ้านเจ้านายข่ม ขู่คาดคั้นเอายาวิเศษเม็ดนั้นจากฉางเอ๋อ ซึ่งเธอก็ไม่สามารถจะป้องกันตัวเองได้ ฉวยจังหวะเหมาะจึงรีบกลืนยาเม็ดนั้นเข้าไปทันที ทันใดนั้นร่างกายของเธอก็เปลี่ยนฉับพลันเป็นพลังของผู้วิเศษ ตัวเบาลอยขึ้น เธอจึงรีบกระโจนออกจากทางหน้าต่าง แล้วเหาะขึ้นท้องฟ้า ถึงแม้เฝิงเหมิงจะไล่จับก็ไม่ทัน เธอล่องลอยไปทั่วแล้วเหาะไปสถิตอยู่บนดวงจันทร์ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา เพราะเธอเห็นว่าสถานที่นี้เหมาะที่เธอจะพำนักเพื่อระลึกถึงโหวอี้คนรักของ เธอ ด้วยการร้องรำพันต่างๆนานาที่ต้องจากกันด้วยวัยอันไม่สมควร อย่างไรก็ตาม ตำนานฉางเอ๋อมีเล่าแตกต่างกัน บ้างว่า ฉางเอ๋อได้ขโมยยาวิเศษของโหวอี้สามีมารับประทานเมื่อสอบสวนเป็นจริง เธอจึงถูกเนรเทศให้ขึ้นไปอยู่บนดวงจันทร์ แล้วถูกสาปให้เป็นคางคกสามขา อีกตำนานหนึ่งกล่าวว่า โหวอี้ได้เป็นกษัตริย์ แต่ต่อมาทรงดุร้าย ทำให้พระนางฉางเอ๋อทรงกลัว จึงเอายาวิเศษเม็ดนั้นมาเสวยแล้วเสด็จไปประทับบนดวงจันทร์ บางตำนานว่า ฉางเอ๋อเป็นเทพธิดาองค์หนึ่งปฏิบัติภารกิจอยู่ในพระราชวังของฮ่องเต้หยกอ๋องส่องเต่ ( ทีกง ) บนสวรรค์ วันหนึ่งเธอทำแจกันแตก จึงถูกลงโทษกักขังอยู่บนดวงจันทร์ ถึงอย่างไรก็ตามชาวบ้านทั้งหลายก็พากันสักการะเซ่นไหว้ขอพรจากเธอ โดยเฉพาะคนหนุ่มสาวขอให้สมหวังในเรื่องคู่รัก ดังนั้นในวันที่ ๑๕ ค่ำเดือน ๘ ต่างพากันเซ่นไหว้เป็นประจำทุกปีจนถึงปัจจุบัน : สมบูรณ์ แก่นตะเคียน ๗ กันยายน ๒๕๕๐ ภาพประกอบ จากกูเกิ้ล ***
|
|
|