|
เฮียนเทียนส่องเต่ 玄天上帝
เฮียนเทียนส่องเต่ 玄天上帝 หรือ เซวียนเทียนซังตี้ หรือ เซวียนเทียนไท่ตี้ หรือ ส่องเต้กง หรือ เสี่ยงเต้กง หรือ ตั๋วเหลาเหย่ หรือพระนามทางการของลัทธิเต๋าว่า จินเฉวหัวเซินหรือ เทพนิลแห่งทิศเหนือ หรือ เป่ยตี้ ไม่ปรากฏชื่อและแซ่ใด แต่ตามลัทธิเต๋าเรียกว่า เสวียนอู่ และไม่ทราบว่ามีชีวิตอยู่ในสมัยใด บางตำนานกล่าวว่าเป็นอ๋องแห่งอาณาจักรหนึ่ง แต่ตำนานที่กล่าวกันทั่วไปว่า เดิมเสวียนอู่เป็นพ่อค้าขายเนื้ออยู่ในตลาดเมืองเฉียนโจว มณฑลฝูเจี้ยน (ฮกเกี้ยน) ในแต่ละวันจำเป็นต้องฆ่าสัตว์เป็นจำนวนมาก นานวันเข้าเกิดมีความรู้สึกผิดชอบชั่วดีว่าการฆ่าสัตว์มากมายเช่นนี้เป็นบาปหนัก จิตใจเริ่มเปลี่ยนไป เกิดความเบื่อหน่ายกับอาชีพต้องฆ่าสัตว์มาขายเป็นรายวันเช่นนี้ รู้สึกเสียใจมาก จึงเริ่มมอบงานอาชีพนี้ให้คนอื่นทำ ตนจึงแสวงหาหนทางดับทุกข์ด้วยการเดินทางขึ้นไปบนภูเขาแห่งหนึ่ง พบสำนักลัทธิเต๋าจึงพำนักอยู่ในสำนักนั้น ด้วยการเป็นคนงานช่วยซักผ้าให้กับผู้หญิงคนรับใช้คนหนึ่งข้างฝั่งแม่น้ำ ขณะที่เขากำลังทุบผ้าที่ซักบนโขดหิน ปรากฏว่าผ้าผืนนั้นเปื้อนเลือด มีข้อความว่า เฮียนเทียนส่องเต่ ปรากฏขึ้นต่อหน้าเขา ผู้หญิงคนนั้นเห็นเข้าตกใจ จึงรีบไปที่ศาลเจ้าพระกวนอิมบนภูเขานั่นเอง เพื่อสวดมนต์ขออย่าได้มีพยันตรายเกิดขึ้นเลยทั้งตัวเธอและตัวเขา ข้างเสวียนอู่ด้วยความสำนึกบาป เพื่อไถ่โทษหนาของตนเสีย จึงเอามีดผ่าท้องควักกระเพาะและลำไส้ออกมาแล้วล้างในแม่น้ำนั้น ทำให้น้ำในแม่น้ำมืดดำไปสิ้น แต่พอสักครู่น้ำก็ใสสะอาดเหมือนเดิม แต่เขาโชคไม่ดีเพราะ ทั้งกระเพาะและลำไส้ของเขาหายไปในแม่น้ำ จิตวิญญาณออกจากร่าง ร้อนถึงองค์หยกอ๋องส่องเต่ เมื่อได้ทรงทราบถึงการกระทำของเขาเพื่อไถ่โทษล้างบาปที่ฆ่าหมูเป็นจำนวนมากเกือบค่อนชีวิต พระองค์จึงทรงแต่งตั้งให้เขาดำรงตำแหน่ง เฮียนเทียนส่องเต่ สำเร็จเป็นเซียนองค์หนึ่ง ภายหลังที่เป็นเซียนแล้ว ปรากฏว่ากระเพาะของเขากลายร่างเป็นปีศาจเต่าสีดำมืดที่ดุร้าย ส่วนลำไส้กลายเป็นปีศาจอสรพิษร้ายเช่นเดียวกัน ทั้งสองปีศาจต่างออกไปทำร้ายราษฎรชาวเมือง ไม่มีใครสามารถที่จะปราบปีศาจทั้งสองตนได้ เทพเจ้าเฮียนเทียนส่องเต่จึงเสด็จลงมายังโลกมนุษย์ เพื่อควบคุมปีศาจทั้งสองตน พร้อมกับใช้ปีศาจทั้งสองเป็นองครักษ์ของพระองค์ด้วย ปีศาจทั้งสองจึงติดสอยห้อยตามพระองค์ ในช่วงต้นชีวิตของจูหยวนจางด้วยการไปอาศัยอยู่ในวัด แล้วเป็นพ่อค้าผลไม้โดยนำไปขายที่เมืองอู่ตงหรือนานกิง เขาและเพื่อนได้เข้าไปพักที่ศาลเจ้าเฮียนเทียนส่องเต่ เขานอนค้างที่ศาลเจ้า แล้วฝันว่า ทหารขององค์เฮียนเทียนให้มาตามตนเพื่อต้องการพูดด้วย เมื่อได้พบกันพระองค์ ทรงขอบใจที่จูหยวนจางจุดธูปเทียนบูชา จูหยวนจางจึงตอบว่า ถ้าตนได้เป็นใหญ่จะทำแท่นทองคำให้องค์เฮียนเทียน แล้วดึ่มน้ำชาที่ทรงวางไว้ให้ เขาจึงลากลับ ตื่นขึ้นมาจึงเล่าความฝันให้คนสนิทฟัง ภายหลังจากที่จูหยวนจาง รวบรวมไพร่พลทหารจัดเป็นกองทัพแล้วขยายอาณาเขตออกไปกว้างขวาง แล้วยกเข้าตีเมืองอู่ตง สถาปนาตนเป็น หงออ๋องแห่งเมืองอู่ตง วันหนึ่งตนได้เข้าไปพักที่เมืองนำเซียงฮู้ คืนหนึ่งได้ฝันว่า ในต้นฤดูหนาววันที่ ๑๕ ค่ำ มีทหารสวมเสื้อเขียวสี่คนเข้ามาหา บอกเขาว่าพักอยู่ที่ภูเขาปูตงซาน เป็นทหารเอกขององค์เฮียนเทียนส่องเต่ พระองค์ให้มาเชิญให้ไปพบ เขาจึงเดินทางไปกับทหารทั้งสี่ เมื่อไปเข้าเฝ้าองค์เฮียนเทียน องค์ท่านได้เตือนเรื่องที่เขาได้รับปากว่าจะสร้างศาลเจ้าและแท่นบูชาให้ใหม่ นอกจากนี้ได้ทรงเตือนเรื่องการเมืองอีกเล็กน้อย เขารับคำที่จะไปทำให้ แล้วตกใจตื่น เขาจึงให้คนสนิทไปดำเนินการตามที่รับปากไว้ทุกอย่าง ซึ่งต่อมา จูหยวนจางได้เสด็จขึ้นครองราชย์เป็นปฐมวงศ์แห่งราชวงศ์หมิง ทรงพระนามว่า ฮ่องเต้หมิงไท่จู่ ครองราชย์ระหว่างพ.ศ. ๑๙๑๑ ๑๙๔๑ เมืองหลวงอยู่ที่นานกิงต่อมาย้ายไปเมืองปักกิ่ง รูปเทพเจ้าเฮียนเทียนส่องเต่ ที่ช่างได้แกะสลัก เป็นรูปนักรบแบบฮ่องเต้ นิ้วพระหัตถ์ซ้ายทรงแสดงปริศนาธรรมลักษณะต่างๆ ส่วนพระหัตถ์ขวาทรงถือดาบ ซึ่งกล่าวว่าเป็นดาบของเทพโป๊ยเซียน คือ หลิ่วตงปิน เฮียนเทียนส่องเต่ทรงยืมมาใช้เพื่อปราบพวกมารร้าย ทรงถือดาบไว้ตลอดจะไม่วางไว้เพราะวางลงเมื่อใดดาบนั้นจะกลับไปหาเจ้าของทันที ประทับบนบัลลังก์ พระบาทเปลือยทั้งสองข้าง พระบาทขวาทรงก้าวเหยียบบนตัวปีศาจอสรพิษ ส่วนพระบาทซ้ายทรงเหยียบปีศาจเต่าดำ พระพักตร์สีชมพูอมแดง เคราสีดำยาว มองดูพระเนตรถมึงทึง วันสำคัญที่ระลึกถึงพระองค์ คือ วันที่ ๓ ค่ำ เดือน ๓ ตามลัทธิเต๋า
บทสรรเสริญเทพเจ้าเฮียนเทียนส่องเต่
玄天上帝寶誥
**********************
: สมบูรณ์ แก่นตะเคียน ๑๙ มกราคม ๒๕๕๑
Title : Xuan Tian Shang Di
: Somboon kantakian
|
|
|