Bookmark and Share Add to Favorites  
สมาชิกเข้าสู่ระบบ
User Name:
Password:
จำการล็อกอินของฉันไว้
ลืมรหัสผ่าน | สมัครสมาชิก
ลืมรหัสผ่าน
ใสอีเมล์ที่ลงทะเบียนไว้กับเรา
จีนศึกษา
  CHINESE TEXT PROJECT
  STANDARD CHINESE
  เส้นสายลายอักษร
  ลัทธิเต๋า
  รวมเรื่องจีนศึกษา-China Knowledge
  วัฒนธรรมศึกษาจากเว็บต่างๆ
  วัฒนธรรมศึกษาจากภาพ
  พระบรมฉายาลักษณ์ของฮ่องเต้
  มังกรจีนสมัยโบราณ
  มังกรจีนศึกษา
  เลือกเพศให้ลูก
  จีนโบราณจาก บริทิชมิวเซียม
  การเดินทางไกลของเหมาเจ๋อตุง
  จีนในปัจจุบัน
แซ่สกุล
  แซ่ตระกูลที่ใช้กันมาก
  ข้อมูลตระกูลแซ่ต่างๆ
  ประวัติบางแซ่สกุล
  200 แซ่สกุลที่ใช้มาก
  ตระกูลแซ่หลิน
มหาวิทยาลัยชั้นนำ
  BEIJING UNIVERCITY
  Shanghai Jiao Tong University
  Tsinghua University
  Xi'an Jiaotong University
  The Chinese University of Hong Kong
  The University of Hong Kong
  The Hong Kong University of Science and Technology
  Southeast University
  East China Normal University
  Tongji University
  Huazhong University of Science and Technology
  The Hong Kong Polytechnic University
  Tianjin University
  City University of Hong Kong
  Harbin Institute of Technology
  Wuhan University
  China Agricultural University
  Renmin University of China
  Xiamen University
  Fudan University
  Hong Kong Baptist University
  Shandong University
  Nanjing University
  University of Science and Technology of China
  Zhe Jiang University
พิพิธภัณฑ์และหอสมุด
  NATIONAL LIBRARY OF CHINA
  CHINA'S MUSEUMS
  GREAT WALL OF CHINA
  SACRED MOUNTAINS OF CHINA
หนังสือพิมพ์
  ซินหัวไทย
  People's Daily
  Xinhua
  China Daily
  China News
  China .com.cn
  China Youth Daily
เจ - มังสวิรัติ - VEGETARIAN
  เจ-อิ่มบุญ
  พลังบุญ
  เมนูอาหารเจ
  เจทิพย์
  อาหารมังสวิรัติ
  International Vegetarian Union (IVU)
  The Veggie Hub
  Vegetarianism
  A Guide to Vetetarian
  simple-veganista.com/all-recipes
เว็บเครือสมบูรณ์
  สมบูรณ์แก่นโน้ต
  ตระกูลแซ่หลิน
  ภูเก็ตสารสนเทศ
  สมบูรณ์แก่นโน้ต

ตำนานองค์หญิงเมี่ยวซ่าน

 

 

 

 

      

 

         เมื่อประมาณพ.ศ. ๑๒๐๐ องค์หญิงเมี่ยวซ่าน เป็นพระธิดาของท่านอ๋องทรงพระนามว่า เมี่ยวเจวียงเอี๋ยนหวาง 妙莊嚴王 ฮูหยินคือ พระนางเปาจิง ทรงมีพระธิดาทั้งหมดสามองค์ คือ องค์หญิงเมี่ยวเหยิน องค์หญิงเมี่ยวหยิน และองค์หญิงเมี่ยวซ่านสุดท้อง ในขณะที่พระนางเปาจิงประสูติองค์หญิงเมี่ยวซ่านนั้น ปรากฏว่าเกิดสิ่งอัศจรรย์ขึ้นภายในพระราชวัง ด้วยมีกลิ่นหอมตรลบไปทั่ววังตลอดจนมีแสงสีรุ้งที่สวยสดงดงาม ราษฎรต่างพากันชื่นชมยินดีกับพระองค์ ที่ได้พระธิดาที่มีบุญญาธิการตั้งแต่กำเนิด ทำให้พระบิดาและพระมารดาทรงพอพระทัยยิ่งนัก เมื่อองค์หญิงเมี่ยวซ่านเจริญวัยขึ้น นางเสวยเพียงมื้อเดียวในหนึ่งวัน ทรงมีพระเมตตากรุณาต่อคนทั้งหลายตลอดจนคนใกล้ชิด ไม่ทรงเคยมีความโกรธ พอพระชนม์ได้ ๑๔ – ๑๕ ปี พระบิดาจึงหาคู่ครองให้ตามธรรมเนียม เป็นบุตรเศรษฐีในเมืองหลวง นางยอมเชื่อฟัง แล้วจึงเข้าไปทูลพระบิดาว่า ถ้าหากให้นางแต่งงานกับบุตรเศรษฐีคนนั้น จะมีผลเสียถึงสามประการ

        พระบิดาจึงตรัสถามว่าที่ว่าผลเสียหายนั้นคืออะไร องค์หญิงจึงตอบว่า ประการแรก ทำให้ราษฎรที่สูงอายุจะได้รับความเดือดร้อน ประการที่สอง ราษฎรที่เจ็บป่วยจะได้รับทุกข์เวทนายิ่งนัก และประการที่สาม พวกเขาทั้งหลายจะได้รับความทุกข์ยิ่งขึ้นเมื่อถึงแก่ความตาย

        พระบิดาจึงตรัสถามว่า แล้วใครจะแก้ปัญหาทั้งสามประการนั้นได้  องค์หญิงจึงตอบว่า เป็นนายแพทย์ พระบิดาทรงพระโกรธจึงทรงให้องค์หญิงทำงานหนักตลอด แต่เธอก็ไม่ย่อท้อทำงานตามที่พระบิดารับสั่งจนเสร็จสิ้น

        ครั้นวันหนึ่งองค์หญิงทรงขอพระบิดา ให้เธอไปช่วยงานในวัดแม่ชีคือวัดปั๋วชึซื่อ พระบิดาทรงอนุญาตพร้อมมีรับสั่งให้เจ้าอธิการวัดสั่งงานให้องค์หญิงทำให้มากทั้งกลางวันกลวงคืน เผื่อเธอจะได้ละความดื้อ หันมาแต่งงานตามที่พระบิดากำหนด ฝ่ายเจ้าอธิการจึงสั่งให้บรรดาแม่ชีทุกคนปฏิบัติตามพระดำรัส องค์หญิงเมี่ยวซ่านจึงต้องทำงานต่างๆ ตั้งแต่เข้าครัวหั่นผักปรุงอาหารเจ หาบน้ำผ่าฟืนทำสวนผัก ทำความสะอาดหิ้งบูชา กวาดลานวัด ด้วยความเต็มใจ ไม่เคยบ่นหรือนึกโกรธ ทำให้บรรดาเทพยดาและสัตว์ทั้งหลายต่างพากันสงสารนาง ปรากฏว่า งานต่างๆที่รับมามีผู้ช่วยทำจนเสร็จสิ้น

        ฝ่ายพระบิดาทรงพิโรธมากที่ไม่เป็นไปตามพระดำริ จึงให้เอาไฟเผาวัดเสีย แต่เธอกลับเอาไฟใส่พระหัตถ์ ไฟมิได้เผามือแต่ประการใด พระบิดาหาว่าเธอเป็นภูตผีปีศาจจึงรับสั่งให้ เหวยถัว 韋馱 นายพลทหารหนุ่มรูปหล่อฆ่าเธอเสีย แต่นายพลหนุ่มในอดีตเคยหลงรักองค์หญิง จึงพาเธอหนีไปอยู่เกาะแห่งหนึ่งทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของเกาะที่พระบิดาประทับ แต่อยู่ภายในพระราชอาณาเขตของพระบิดาขององค์หญิง พร้อมทั้งจัดการหาคนใช้ และสร้างวังให้ แต่ด้วยองค์หญิงมีจิตใฝ่ในทางธรรมเป็นอย่างสูง เหวยถัวจึงสร้างวัดให้ ส่วนเรื่องความรักที่มีต่อเธอนั้นไม่บรรลุผล ในที่สุดเขาจึงถือเสมือนเป็นน้องสาวของเขา และช่วยเหลือเธอมาตลอด เธอจึงบำเพ็ญเพียรที่เกาะแห่งนั้น

        แต่อีกตำนานหนึ่งกล่าวว่า เมื่อเพชฌฆาตลงมือประหารองค์หญิง ปรากฏว่าดาบแตกกระจุย เขาจึงเอาเกาทัณฑ์ยิง ก็เป็นเช่นเดียวกับดาบ เขาจึงต้องใช้กำลังฆ่าเธอ แต่สมเด็จย่าขององค์หญิงให้ทหารองครักษ์พาหนีไปอยู่อีกเกาะหนึ่ง พระบิดาเข้าใจว่าเธอสิ้นพระชนม์แล้ว

        วันหนึ่ง พระบิดาทรงประชวรด้วยโรคไข้เหลือง พระเนตรและผิวพรรณพระวรกายเหลืองซีดไปทั้งพระองค์ ไม่มีหมอหลวงคนใดรักษาให้หายได้ มีพระภิกษุรูปหนึ่งเข้าเฝ้าพร้อมกราบทูลว่า พระโรคของพระองค์สามารถรักษาให้หายขาดได้ แต่ต้องประกอบด้วยตัวยาที่มนุษย์ธรรมดาสามัญไม่มีให้ นั่นก็คือ ดวงตาและแขนของผู้ที่ไม่เคยโกรธเกลียดใครเลยตลอดชีวิต พระองค์ทรงฟังแล้วตรัสว่า เป็นไปไม่ได้ที่ในช่วงชีวิตของคนจะไม่มีความโกรธเลย พระภิกษุรูปนั้นจึงทูลถึงสถานที่องค์หญิงประทับอยู่ซึ่งอยู่ภายในราชอาณาเขตของพระองค์นั่นเอง เธอเป็นพระโพธิสัตว์

        พระองค์จึงรับสั่งให้ขุนนางผู้ใหญ่ เป็นทูตไปขอสิ่งของดังกล่าว  เมื่อทูตไปถึงเกาะเข้าเฝ้าองค์หญิง พร้อมทูลให้ทรงทราบว่า พระบิดาประชวรต้องการของสิ่งดังกล่าว องค์หญิงทรงยินดียิ่งนัก แล้วควักพระเนตรออกมาใส่หีบ พร้อมกับตัดแขนอีกข้างหนึ่งใส่หีบเช่นเดียวกัน

        เมื่อทูตกลับถึงเกาะ นำดวงพระเนตรและพระกรขององค์หญิงเมี่ยวซ่าน เอาไปปรุงพระโอสถ แล้วนำไปถวายให้เสวย จนเมี่ยวเจวียงเอี๋ยนหวางทรงหายจากพระโรคเป็นปกติ รับสั่งให้พระภิกษุรูปนั้นเข้าเฝ้าเพื่อปูนบำเหน็จ เมื่อพระสงฆ์เข้าเฝ้า พระองค์ทรงขอบพระทัยที่รักษาให้หายจากโรคร้าย แต่พระภิกษุทูลว่า พระองค์ไม่ต้องขอบคุณและให้รางวัลแก่ตนหรอก เพราะผู้ที่ควรจะขอบคุณก็คือ พระโพธิสัตว์องค์ที่ประทานดวงตาและแขนต่างหาก พร้อมกับทูลสถานที่องค์หญิงประทับ

        ฝ่ายเมี่ยวเจวียงเอี๋ยนหวาง พร้อมด้วยพระมเหสีและพระธิดาทั้งสองคือ องค์หญิงเมี่ยวเหยินและองค์หญิงเมี่ยวหยิน จึงเสด็จลงเรือไปยังเกาะเมี่ยวซ่านสถานที่ประทับ       ในขณะที่องค์หญิงเมี่ยวซ่านกำลังประกอบพิธีบูชาพระอมิตาภพุทธเจ้าอยู่ นางจึงทูลเชิญเสด็จเข้าไปในวัง      พร้อมกราบทูลเรื่องราวทั้งหลายให้ทรงทราบ จนพระองค์สิ้นความโกรธ พระองค์พร้อมพระญาติวงศ์จึงสร้างวัดให้องค์หญิงอย่างสมพระเกียรติ จากตำนานกล่าวว่า ภายหลังจากที่องค์หญิงกราบทูลแล้ว พระนางก็อันตรธานหายไป

        อีกตำนานหนึ่งกล่าวว่า พระนางถูกย่ารับสั่งให้ประหารด้วยการให้กระโดดหน้าผาฆ่าตัวตาย เพราะเชื่อว่าพระนางเป็นพวกภูตผีปีศาจ ท่านอ๋องรับสั่งให้นายพลหลัวผิงแกล้งนำนางทิ้งลงในทะเล แล้วนำพระนางพร้อมด้วยนางอินหม่า มารดาของเหวยถัวไปพักย้งตำบลแห่งหนึ่ง หลายปีผ่านไป ปีศาจปลาตนหนึ่งไม่ชอบเชื้อพระวงศ์นี้ จึงให้นายทหารปีศาจชื่อหัวอี้ไปฆ่านางเสีย เพื่อแก้แค้นด้วยนางนับถือพระเชอหางต้าซือ เทพทางพุทธศาสนาองค์หนึ่งที่เคยนำนางไปไว้ในสระบัว หัวอี้จึงยกทัพไปยังหมู่บ้านที่พระนางเมี่ยวซ่านและนายพลเหวยถัวอยู่ ต่างสู้รบกัน บุตรของหัวอี้ฆ่าเหวยถัว หลังจากที่พระนางเมี่ยวซ่านเป็นพระโพธิสัตว์แล้วจึงยกเหวยถัวเป็นพระโพธิสัตว์องครักษ์ และนับถือพระนางเป็นน้องสาว ตำนานขององค์หญิงเมี่ยวซ่านมีเกล็ดข้อปลีกย่อยอีกมากมาย จึงยากที่จะเอามาปะติดปะต่อกันได้ เช่น เรื่องเทพเสือช่วยพระนาง เรื่องเมืองนรก เป็นต้น

 

 

บทความอื่นๆ ในหมวดเดียวกัน